top of page

รอยแผลเป็น & คีลอยด์

Scarred Leg

รอยแผลเป็นคืออะไร

รอยแผลเป็นเกิดจากการที่ร่างกายสร้างคอลลาเจนเพื่อให้เกิดเนื้อเยื่อใหม่มาทดแทนเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายจากการบาดเจ็บ เช่น ถูกของมีคมบาด ผ่าตัด โดนความร้อนจากไฟหรือน้ำร้อน และจากสิว เมื่อแผลหายดีแล้วจะทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้ ทำให้เรารู้สึกไม่มั่นใจ

 

รอยแผลเป็นมีกี่ชนิด

รอยแผลเป็นมีหลายชนิด โดยมีประเภทหลักๆ 

  • แผลเป็นทั่วไป​​ มีลักษณะเป็นรอยดำ ซึ่งแผลชนิดนี้เกิดมาจากการอักเสบของผิว เช่น รอยดำจากสิว รอยดำจากการถูกยุงกัด แผลเป็นชนิดนี้ไม่รุนแรง และจะหายเองเมื่อเวลาผ่านไป อาจจะต้องใช้เวลาเป็นเดือน​

  • แผลเป็นนูน มีลักษณะนูน ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อใหม่มาทดแทนเนื้อเยื่อที่ฉีกขาดจากแผลเดิม

  • รอยแตกลาย มีลักษณะเป็นเส้นสีขาวกระจายบนผิวหนัง ซึ่งเกิดจากการที่ผิวหนังตึงมากเกินไป จะพบได้ในผู้ที่ตั้งครรภ์ และผู้ที่น้ำหนักลดหรือเพิ่มอย่างรวดเร็ว

  • แผลคีลอยด์ มีลักษณะนูน หนา และมีสีแดง ซึ่งแผลเป็นชนิดนี้เป็นผลมาจากการที่ร่างกายผลิตคอลลาเจนมารักษาอาการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อมากเกินไป มักเกิดขึ้นกับเนื้อเยื่อที่ได้รับความเสียหายมาก 

  • แผลหลุม มีลักษณะลึกลงไปจากผิวหนังเดิม ทำให้ผิวหนังแลดูขรุขระ ไม่เรียบเนียน ซึ่งเกิดจากการที่ผิวหนังรักษาแผลอักเสบได้ไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดพังผืดใต้ผิวหนัง เช่น หลุมจากสิวอักเสบ

  • แผลหดรั้ง เกิดจากการที่แผลหดตัวและทำให้อวัยวะผิดรูป ส่วนมากจะเกิดขึ้นเมื่อผิวเสียหายเป็นบริเวณกว้าง เช่น แผลไฟไหม้

  • แผลผ่าตัด มีลักษณะเป็นรอยเส้นขาวตามแนวที่ผ่าตัด

  • แผลจากอุบัติเหตุ มักทิ้งรอยดำและทำให้ผิวไม่เรียบเนียน

วิธีรักษารอยแผลเป็น

รอยแผลเป็นแต่ละประเภทใช้วิธีการรักษาที่ต่างกัน เช่น การทาครีมเพื่อลบรอยแผลเป็น แต่อาจจะใช้เวลานานและอาจจะไม่ได้ผลสำหรับแผลเป็นบางประเภท สำหรับท่านที่ต้องการให้หายเร็ว สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและวางแผนการรักษาให้เหมาะกับชนิดของแผลได้ ซึ่งการรักษาโดยแพทย์อาจจะใช้วิธีดังต่อไปนี้

  • สเตียรอยด์


การรักษาแผลเป็นด้วยการฉีดสเตียรอยด์เหมาะกับรอยแผลเป็นคีลอยด์และแผลเป็นนูน โดยเริ่มจากการฉีดเพื่อทำให้ผิวที่นูนยุบลงจนเรียบเนียนไปกับแผลเก่ามากที่สุดก่อน หลังจากนั้นค่อยรักษาสีผิวจากแผล วิธีนี้ต้องอาศัยการทำอย่างต่อเนื่องและอาจจะต้องทำซ้ำหลายครั้งเพื่อทำให้แผลยุบ ไม่สามารถฉีดยาเยอะไปให้ครั้งเดียวได้เพราะอาจจะทำรอยแผลที่นูนยุบมากจนเกินไป

  • IPL

เหมาะกับแผลที่มีรอยแดง ซึ่ง IPL จะช่วยสลายเม็ดสีของแผลเป็น และยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนมาซ่อมแซมผิวอีกด้วย

  • ฉีดรักษาด้วย Ultra Alpha Arbutin

 

เหมาะกับรอยดำ รอดแดง ซึ่ง Alpha Arbutin จะเข้าไปสลายเม็ดสีและปรับให้ผิวบริเวณที่ฉีดดูสว่างขึ้น วิธีนี้ได้ผลเร็ว แต่ต้องอาศัยการรักษาอย่างต่อเนื่อง วิธีนี้เหมาะกับการรักษารอยดำเฉพาะจุด

  • ฺBrightening Laser

เหมาะกับรอยดำจากแผลเป็น ซึ่ง Brightening Laser จะส่งพลังงานเข้าไปตรงเม็ดสีดำและทำให้เม็ดสีแตกตัว จึงทำให้รอยดำจางลง และสีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น เนื่องจากเลเซอร์จับเฉพาะเม็ดสีดำจึงไม่มีผลทำให้หน้าบางลง

จะรู้ได้ยังไงว่าเราต้องใช้วิธีไหนรักษาแผลเป็นแบบไหน

เนื่องจากแผลแต่ละแบบใช้วิธีการรักษาที่แตกต่างกันจึงขอแนะนำให้เข้ามาให้คุณหมอประเมินชนิดของแผลและแนะนำให้ว่าควรใช้วิธีไหนรักษานะคะ

นัดรับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนตัดสินใจ
"ไม่มีค่าใช้จ่าย"

ทำไมต้องรักษารอยแผลเป็นที่ Tiara Clinic
 
ที่ Tiara Clinic
​- ใช้ยาที่ได้รับการรับรองจาก อย ไทย -​

​- ใช้เครื่องเลเซอร์นำเข้า ผ่านมาตรฐาน อย อเมริกา ยุโรป เกาหลี และไทย -​

- หมอทำให้เองทุกขั้นตอน -

- เน้นความปลอดภัยของคุณเป็นสำคัญ -

- สามารถเลือกสวยได้ตามงบประมาณของคุณ -

- หมอทุกคนมีใบประกอบวิชาชีพและดูแลเองตั้งแต่ต้นจนจบ -

bottom of page